:: C&G For Yous Life  ::
การวาดการ์ตูนเรื่องในรูปแบบของตะวันตก(Comic Strip) หรือแบบญี่ปุ่นที่เรียกว่า มังงะ(Manga) เป็นสายหนึ่งของการวาดการ์ตูนในปัจจุบันผู้ที่ทำงานด้านการ์ตูนคอมมิคจะถูกเรียกว่า “นักเขียนการ์ตูน” เนื่องจากลักษณะเด่นของงานสายอาชีพนี้คือ การเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยภาพให้สนุกชวนติดตามไม่แพ้ภาพยนตร์หรือวรรณกรรมหนึ่งเรื่อง งานที่เน้นไปทางด้านเนื้อเรื่องเป็นหลักอย่างคอมมิคนี้ทำให้นักเขียนต้องมีทักษะอื่น ๆ มาประกอบนอกจากการวาดรูปด้วย
กลับไปหน้าหลัก<---- กลับไปหน้าหลัก  | 

หัวข้อ :: วิธีการหาไอเดีย


ว่าด้วยเรื่อง :: Idea ตัวละคร หาที่ไหน อย่างไร เริ่มอย่างไร วาดอะไรดี


รายละเอียด ::

     “วาดอะไรดี” คงจะเป็นปัญหาโลกแตกสำหรับนักเขียนหลาย ๆ คนครับ ไม่ว่าจะเก่ง หรือไม่เก่งแค่ไหนก็มีช่วงตัน เขาว่ากันว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับนักเขียนคือ นั่งหน้ากระดาษที่ว่างเปล่า โดยไม่รู้ว่าจะทำอะไร

เราจะทำอย่างไรล่ะ ?
     ถ้าคิดไม่ออกว่าจะวาดอะไรอย่างไร ? ทั้ง ๆที่อยากจะวาด ถ้าถามว่ามีขั้นตอน หรือ ฮาวทูการคิดงานไหม คงบอกได้ว่า ไม่มีวิธีสำเร็จรูปใด ๆ การคิดงานที่แน่นอน ในบทนี้จะเป็นแนวทางหนึ่งเท่านั้น เมื่อลงมือทำงานไปเรื่อย ๆ ประสบการณ์ของเราจะช่วยบอกเราเองในวิธีการหาไอเดียที่เหมาะสมที่สุด

ตั้งโจทย์ กำหนดเป้าหมาย
     เวลาที่เราวาดรูปนั้นแทบทุกคนคงจะคิดว่า “จะทำอย่างไรให้ออกมาดูดิ” นั่น การเริ่มต้นออกแบบ(Design) การออกแบบก็คือ การแก้ไขปัญหาอย่างหนึ่ง ซึ่งการแก้ปัญหา ก็ต้องมีโจทย์แค่ว่า “จะทำอย่างไรให้ออกมาดูดี” เวลาจะออกแบบจะวาด มันกว้างไปนิดนึกอะไรไม่ออกแน่ ๆ ครับ โจทย์ในตอนนี้ เราอาจจะคิดมาเป็น “คำหนึ่งคำ” ที่เราอยากจะวาด และชัดเจนในตัว เช่นมังกร “มังกร” “สาวน้อยจอมเวทย์” “นักดาบ” “ผู้ชายเท่” “คุณลุงขรึม” ในตอนนี้ “คำหนึ่งคำ” นี้จะกลายเป็น “แนวความคิดหลักในการออกแบบ” ( Concept Design ) นี้ไม่จำเป็นจะต้องบอกรายละเอียดมากมาย เพราะว่าเราจะใส่มันไปหลังขั้นตอนหลังจากนี้ เพื่อสร้างให้ “ตัวละคร” ของเราหลากหลายและ ชัดเจนขึ้นว่าเป็นตัวละครประเภทไหน มีรายละเอียดอย่างไร
หาข้อมูล
     ก่อนที่จะใส่รายละเอียดอะไรก็ตาม เราต้องหาข้อมูล พูดง่าย ๆ ก็คือ วัตถุดิบของการสร้างตัวละคร หาข้อมูลหาอะไรบ้าง ? หมายถึง เปิดงานภาพวาดคนอื่นให้ไหม หรือการหาแรงบันดาลใจในที่ต่าง ๆ นั่นก็ใช่ครับ เป็นหารหาข้อมูลอย่างหนึ่งที่ต้องมี แต่ตอนนี้อยากให้รู้ว่า “ข้อมูลที่เราจะเอามาใช้ทำงานได้ “ ผมคิดว่า ทุกคนมีอยู่แล้วครับเยอะด้วย ถ้าพูดคำว่า “ทุกสิ่งในโลกใบนี้ที่คุณเคยเห็น เคยรู้จัก และจดจำได้ สามารถเอามาใช้ออกแบบได้ทั้งสิน” นั่นก็คือการ “การออกแบบผสมผสาน”
ออกแบบผสมผสาน
     อะไรคือการออกแบบผสมผสาน ก็คือลองมานึกถึงนิทานเรื่องเล่าเหนือธรรมชาติ เทพนิยาย ที่เรารู้จักดีสักเรื่อง แล้วเอาตัวละครในนั้นมาดู เราลองเอาตัวอย่างที่เห็นเยอะที่สุดนึกภาพสาวน้อยที่มีปีกขาวกลางหลัง บินอยู่บนฟากฟ้า ใช่ครับ นางฟ้า ถ้าผมถามว่า “นางฟ้า” ผสมผสานอะไรกับอะไร แน่นอนครับ คนกับนก แต่ถ้าพูดให้ลึกก็คือ (คนกับปีกนก) แล้วถ้าพูดว่าวัตถุดิบของทั้งสองอย่างแทนล่ะ เอาเป็นคนกับกับปีกคางคาวก็จะได้ปีศาจนั้นเอง ถ้ายกเอาตัวละครในเทพนิยาย เรื่องเล่า เรื่องแต่งทั้งหลายเรื่องที่เราเห็นจนชินตามานั่งดู สักตัว จะพบว่า เกิดจากการผสมผสานหลาย ๆ สิ่งเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นสิ่งใหม่นั้น แพร่หลายจนเป็นสากล คนก็จะจำภาพลักษณ์นั้นเป็นสัญลักษณ์ใหม่ต่อไป ยกตัวอย่างการผสมผสานที่ทุกคนน่าจะเคยเห็น มักกรจีน หัวมีลักษณะคล้ายหัวจระเข้ (บางตำราบอกอูฐ) เขากวาง ดวงตาของกระต่ายป่า หูหัว คอ และลำตัวยาวเหมือนงู เกล็ดปลา และเท้าจากเสือ ถ้าเป็นมังกร ฝั่งตะวันตก ยุโรปศิลปินสมัยก่อนคงจะได้แรงบันดาลใจมาจากสัตว์จำพวกเลื้อยคลานทั้งหลายบวกกับปีกค้างคาว ซึ่งจริง ๆ มังกร ก็มีหลายประเภทความหลากหลายก็จะขึ้นอยู่กับจิตนาการของผู้วาดว่าจะวาดอะไรเพิ่มเติมอะไร ตัดทอนอะไร และจะใช้อะไรรูปทรงแบบไหนเป็นโครงพื้นฐาน ใช้ว่าจะผสมได้แค่สิ่งมีชีวิตเท่านั้น วัตถุ ธาตุ ดินน้ำลมไฟ ความมืด แม้กระทั้งอารยธรรม ความเชื่อ เสื้อผ้า ก็ยังเอามาใช้งานในการออกแบบผสมผสานได้เช่นกัน คราวนี้เรามาลองดูว่าจะทำอะไรกับการออกแบบผสมผสานได้บ้าง ใช่ว่าจะจับมาร่วมกันหลาย ๆ อย่างแล้วจะดูดีได้ อาจะเหมือนอาหาร ยิ่งวัตถุดิบเยอะยิ่งจัดการได้ยาก และถ้าเป็นวัตถุดิบที่ไม่เข้ากันมาร่วมกัน ผลลัพธ์ก็อาจจะแปลก เรามาดูในในหัวข้อต่อไปกัน “เราจะทำอะไรกับมันได้บ้าง” แล้วถ้าเอาของมาผสมกัน ทำอย่างไรให้ดูดี ส่วนใหญ่แล้ว หลักพื้นฐานคือ สิ่งที่มีความคล้ายในด้านหนึ่งก็ตามมักจะเข้ากันได้ ถ้าเอาของที่แปลก หรือไม่เข้ากันมาผสมกัน ไม่ว่าจะในด้านรูปร่าง รูปทรงความรู้สึก หรือสี ก็จะให้โดดเด่นขึ้นมา (เป็นไปได้ทั้งด้านดี และด้านไม่ดี)
ขึ้นข้างบน
Free Web Hosting